ลงทุนอสังหา ไม่ยากอย่างที่คิด พร้อมบอกวิธีและขั้นตอนการลงทุน
- Wolf Property
- Jan 26, 2018
- 1 min read

การสร้างโอกาสในการสร้างความมั่นคงด้วยผลตอบแทนที่เรียกได้ว่าก้าวกระโดดอย่างคุ้มค่า วิธีการหนึ่งที่เป็นที่นิยมคือ การลงทุนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นหรือการลงทุนในสินทรัพย์นั่นเอง ในที่นี้ขอกล่าวถึงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ สำนักงาน หรือคอนโด การเริ่มต้นในการลงทุนต้องผ่านจุดสำคัญคือ การศึกษาและเรียนรู้อย่างเข้าใจในรูปแบบการลงทุนที่มีในปัจจุบัน ปัจจัยหลักๆคือ การศึกษาแหล่งข้อมูลในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การวิเคราะห์ทำเลถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เป็นต้น
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่มีเงินลงทุนไม่มาก ก็สามารถมองหาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยวิธีการที่เป็นมุมมองและช่องทางที่มีให้เลือกอยู่หลากหลายพอสมควรในปัจจุบัน ได้แก่
ลงทุนกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
เป็นการลงทุนที่มีผู้จัดการกองทุนจะระดมทุนจากคนทั่วไป โดยการขายหน่วยลงทุนและนำเงินที่ได้มาไปลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนด
ความโดดเด่นด้านการลงทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
1. ไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
2. มีผู้จัดการแทน
การลงทุนกองทุนจะมีผู้ช่วยจัดการกองทุนให้และส่งเงินให้เราตามกำหนด
3. กระจายความเสี่ยง ช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการลงทุนได้
4. มีสภาพคล่องสูง
หากคิดจะเลิกลงทุนก็ทำได้ง่าย เพราะเป็นกองทุนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อง่ายขายคล่องและไม่ต้องกังวลในเรื่องภาษี
5. ผลตอบแทนดี
มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเป็นเงินปันผลปีละประมาณ 7-8% และบางตัวยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีก
การลงทุนซื้อคอนโดด้วยการเก็งกำไรจากการซื้อใบจอง
เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ ด้วยเทคนิคคือต้องเรียนรู้เรื่องทำเลที่ดีมีประสิทธิภาพในการสร้างกำไร ความน่าสนใจของโครงการ และเรียนรู้ช่วงเวลาของราคาที่ทำกำไร เป็นต้น
การดำเนินการมีวิธีการดังนี้
1. ติดตามข่าวสารในช่องทางต่างๆอย่างต่อเนื่อง
เพื่อหาข้อมูลโครงการที่เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจเมื่อไหร่? เปิดขายวันแรกเมื่อไหร่? จุดที่ตั้งสำนักงานขาย เพื่อจะได้รับโอกาสในการคว้าใบจองได้ทันการณ์
2. เตรียมเรื่องเงินจองและทำสัญญาตามเงื่อนไขโครงการ
เพื่อเป็นหลักประกันแสดงความสนใจในตัวโครงการ
ข้อควรระวังในการลงทุน
1. การซื้อใบจองเพื่อการลงทุน
ราคาใบจองควรอยู่ในกรอบราคาประมาณ 3-6 หมื่นบาท หากใบจองมีราคาหลักแสนขึ้นไป
2. ควรปล่อยใบจองให้ได้เร็วที่สุดก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วงผ่อนดาวน์
สามารถปล่อยใบจองผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โซเซียลมีเดียต่างๆ เป็นต้น สำหรับราคาใบจองที่ปล่อยได้เร็วกรณีโครงการ Sold Out เรียบร้อยอยู่ประมาณ 20-30% ของราคาต้นทุน
3. กรณีโครงการยังไม่ Sold out แล้วกำลังจะเข้าสู่ช่วงผ่อนดาวน์
แนะนำว่าผู้ลงทุนจำเป็นต้อง cut loss เป็นการขายในราคาทุนหรือราคาต่ำกว่าทุน เพราะหากพลาดในช่วงนี้ราคาทุนสะสมของใบจองจะสูงขึ้นตามไป
4. ข้อแนะนำเพิ่มเติม
หากมีโอกาสก่อนถึงวันเปิดห้องตัวอย่างเป็นทางการ ควรไปสำรวจสภาพบรรยากาศสำนักงานขาย เพื่อไปดูแนวโน้มความเป็นไปได้ที่น่าสนใจในการลงทุนของโครงการนั้น
การลงทุนแบบการเป็นนายหน้า
เป็นตัวกลางในการติดต่อประสานงาน ซึ่งรายได้ที่ได้จากการเป็นนายหน้าจะอยู่ที่ 3-5% จากราคาขาย ขึ้นอยู่กับข้อตกลงแลเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญา
ความน่าสนใจการเป็นนายหน้า
1. ผลตอบแทนที่มีอัตราสูง
โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 3% หรือบางกรณีสูงถึง 10% ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่สูง
2. ใช้เงินลงทุนน้อย
ถือว่าเป็นการลงทุนไม่สูง เพราะมุ่งเน้นในเรื่องการติดต่อประสานงานเป็นหลัก
3. ความเสี่ยงต่ำ
เมื่อเปรียบเทียบจากต้นทุนและเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต่ำและรายได้ที่สูงต่อครั้ง เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ
4. การเป็นนายหน้าที่ดี
ต้องมีประสบการณ์และไอเดียที่จะขายพร้อมเทคนิคการเจรจาโน้มน้าว การต่อรองการซื้อขาย
การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แบบซ่อมแซมแล้วขายต่อ
เช่น จากการซื้อขายคอนโด ด้วยการเสาะแสวงหาช่องทางในการซื้อคอนโดมาด้วยราคาที่ถูกที่สุด แล้วทำมาปรับปรุงซ่อมแซมหรือ Renovate ใหม่ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และสวยงามและนำไปขายต่อในราคาที่ได้กำไรที่สูงขึ้น
ข้อควรระวังในการลงทุน
ในแง่ของการลงทุน ควรให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องของห้องครัวและห้องน้ำที่มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อบ้าน ผู้ขายบ้านต้องเปลี่ยนสุขภัณฑ์ภายในห้องครัวและห้องน้ำใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น
การลงทุนจากการขายห้องตัวอย่าง
หลายคนอาจจะคิดว่าห้องตัวอย่างเป็นห้องที่โครงการตกแต่งเอง แต่ในบางครั้งห้องตัวอย่างเป็นห้องที่มีลูกค้าซื้อไปแล้ว และทำการตกลงกับโครงการ ให้โครงการสามารถนำห้องนี้ไปนำเสนอเป็นห้องตัวอย่างให้กับลูกค้าได้ และถ้าลูกค้าสนใจจะซื้อห้องตัวอย่างก็สามารถซื้อห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งได้เลย
วิธีการในการลงทุนขายห้องตัวอย่าง
1. เลือกโครงการที่น่าสนใจ
โดยเน้นไปที่โครงการแบบ fully-fitted เป็นหลัก
2. ดีลกับทางโครงการก่อน
ว่าจะซื้อห้องเพื่อตกแต่งและขายต่อ และโครงการสามารถใช้ห้อง ๆ นี้เป็นห้องตัวอย่างได้
3. ทำการตกแต่งตามงบประมาณ และตั้งราคาสำหรับขายเอาไว้
ข้อควรระวังในการลงทุน
ในความจริงแล้วห้องตัวอย่างมักจะเป็นห้องที่ขายค่อนข้างง่าย ถ้าลูกค้าถูกใจ เพราะลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีโดยไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเติม แต่เรื่องของราคาขายต่ออาจจะต้องตั้งกันดี ๆ หน่อย เพราะถ้าหากขายคอนโดห้องนั้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีจะโดนภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% จากราคาซื้อขาย
การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้เช่า
เช่น การซื้อคอนโดให้เช่ารายเดือนหรือรายวัน รายได้จากการให้เช่าขึ้นอยู่กับทำเลและต้นทุนที่ลงทุนไป และลำดับถัดไปการต่อยอดสู่การเช่ารายวันด้วยผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากขึ้น ด้วยการใช้ประสบการณ์ การเรียนรู้ถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดเข้ามาเป็นตัวผลักดันเพื่อสร้างรายได้ที่สูงขึ้น
แนะนำเทคนิคการซื้อคอนโดเพื่อให้เช่า
อย่าลืมประเมินค่าเช่าให้มากกว่าเงินผ่อนและดอกเบี้ย ดังนี้ ควรเลือกวิธีการทำสัญญาเช่าแบบย่นระยะ เพื่อการรองรับผู้เช่าหลายกลุ่ม ป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นและวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่น สัญญาเช่าระยะสั้นจะกำหนดราคาแพงขึ้นเพื่อผลประโยชน์ในการดูแลและต้องหาผู้เช่ามาแทนจากความเสี่ยงระยะสั้น เป็นต้น
การลงทุนกับนักลงทุน
ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เริ่มมีประสบการณ์ในการลงทุน ประสบความสำเร็จในการลงทุนในระดับหนึ่งและต้องการต่อยอดสู่การลงทุนที่สร้างผลกำไรที่สูงขึ้น สามารถนำไอเดียและสร้างสรรค์แนวคิดไปนำเสนอแผนธุรกิจกับนักลงทุนรายใหญ่เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าให้นักลงทุน
เทคนิคเพิ่มเติม
คือการมองหาช่องทางในการทำกำไรและสร้างรายได้ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นเรื่องที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของกลไกทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถนำวิธีการต่างๆ มาปรับเป็นกลยุทธ์และเทคนิคในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างประสบความสำเร็จ

https://www.facebook.com/WOLF-Property-153327115290422
Comments